3/21/2019

มะเร็ง ความสัมพันธ์กาย ความคิด และจิตวิญญาณ

มะเร็งความสัมพันธ์กาย ความคิด และจิตวิญญาณ


นายแพทย์ดาเรน สตาร์วินน์ ตั้งข้อสังเกตว่า คนไข้มะเร็งของคุณหมอมีเรื่องราวด้านอารมณ์ที่เกาะกินใจ มีพลังงานจักระบางจักระขาดสมดุลอย่างรุนแรง เมื่อวิเคราะห์กับตำแหน่งของก้อนมะเร็ง พบว่าก้อนมะเร็งในร่างกายมักพบใกล้ตำแหน่งที่จักระขาดสมดุล ซึ่งโยงใยกับเรื่องราวเชิงอารมณ์ที่เกาะกินใจ

ครูจิตวิญญาณบอกว่า กฏของจิตวิญญาณเกิดก่อนกฏกายเนื้อ ความเจ็บป่วยเกิดขึ้นก่อนในพลังงานที่ห้อมล้อมกายเนื้อ เกิดในความรู้สึกนึกคิด ถ้าบุคคลมีจิตวิญญาณดีและเก็บกวาดอารมณ์และจิตใจให้สะอาดอยู่เสมอ ความไม่สมดุลจะถูกขจัดออกไปหรือจัดการในระดับดังกล่าว บุคคลผู้นั้นจะมีสุขภาพที่ปราศจากปัญหา ความคิดลบต่อเนื่องยาวนานในร่างพลังงานสุดท้ายจะตกสู่กายเนื้อ ทำให้เกิดความเจ็บปวดต่างๆ และสภาวะเกิดโรค คุณหมอสตาร์วินน์เชื่อว่านี่คือภาพของการเกิดมะเร็งที่ถูกต้อง

ปัจจุบันศาสตร์ที่เรียกว่า psychoneuroimmunology (PNI) เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยจิตวิทยา ระบบประสาทส่วนกลาง และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ถุกควบคุมโดยฮอร์โมนระบบประสาท (neuroendocrine) ได้รับรองว่าความไม่สมดุลทางอารมณ์นำไปสู่การเกิดเนื้อเยื่อมะเร็ง

บทความในวารสารมะเร็งยุโรปตีพิมพ์เรื่องความเชื่อมโยงของความเครียดเชิงอารมณ์กับการลดการทำงานของยีนระบบภูมิคุ้มกัน ภาวะซึมเศร้ากดการทำงานของการสร้างทีเซลล์นักฆ่าภายในร่างกาย ขัดขวางการซ่อมแซมดีเอ็นเอที่ผิดปรกติ และกระตุ้นการป่วยตายแบบอะป็อบโทซิสของเซลล์ บทความสรุปว่า ปัจจัยทางจิตวิทยาหรือเชิงพฤติกรรมอาจมีผลต่อความความพัฒนาก้าวหน้าของมะเร็งผ่านปัจจัยเชิงจิตวิทยาสังคมในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและระบบสรีระวิทยาอื่น

บทความรีวิวจากวารสารมะเร็ง โดยดร. จูเลียน บาวเออร์ 2019 กล่าวว่า ความเหนื่อยล้าเกินกว่าระดับการทำกิจธุระในชีวิตประจำวันทั่วไปเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในคนไข้มะเร็ง ให้ความรู้สึกสิ้นหวังต่อเนื่อง หมดเรี่ยวแรงทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และความคิดอ่าน การศึกษาเชิงความเกียวข้องระหว่างภูมิคุ้มกันและระบประสาทพบว่า ความลำบากยากแค้นในวัยเด็กมีผลอย่างมากกับการเสียพลังงานชีวิตที่สัมผัสได้ในรูปแบบของอาการไม่มีเรี่ยวแรงนี้ อาการอื่นที่พบคืออาการซึมเศร้าหมดอาลัยตายอยาก ไม่ทำอะไรเลย การนอนถูกรบกวน (นอนไม่หลับ หลับไม่นาน หลับไม่อิ่ม) มีอาการแปลกแยก อยู่คนเดียว หงอยเหงา และมีความผวาหวาดกลัวหงุดหงิด งานวิจัยลงความเห็นว่าความเปลี่ยนแปลงเชิงภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมนประสาท และระบบประสาทมีความเกี่ยวข้องกับความหมดเรี่ยวแรงนี้

ดร. คาโรลีน มิสส์ กล่าวว่า เมื่อพลังงานจักระรั่วไหล เกิดการเสียพลังชีวิต ร่างกายต้องไปดูดพลังงานชีวิตจากเนื้อเยื่อใกล้จักระดังกล่าวมาใช้ ทำให้เกิดการเหนือยง่าย ไม่มีแรง และเกิดอาการซึมเศร้าได้ สภาวะนี้เหมือนปรากฏการณ์ที่วารสารมะเร็งกล่าวไว้ข้างต้น ความเครียดทางกายจิตและอารมณ์เบื้องต้นทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติด้านกลัวและต่อสู้หรือหนีทำงานต่อเนื่อง ประสาทส่วนซ่อมแซมพักผ่อนไม่สามารถทำงานได้เต็มกำลัง ทำให้เกิดโรคร้ายกับร่างกายได้ในที่สุด

วิธีซ่อมแซม ก่อนอื่นคือเปิดโอกาสให้ระบบประสาทพาราซิมพาเธติกได้ทำงานของมัน จะเกิดได้เมื่อร่างกายผ่อนคลาย ดนตรี การเต้น งานศิลปะ คือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายรีบเร่งน้อยลง เปิดช่องว่างให้ระบบประสาทคลายตัวร่างกายจึงมีโอกาสซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คือความคิดที่ทำให้จิตใจเราไม่คลุกกับเคื่องราวของผู้อื่นมากมายในแต่ละวัน เป็นการเก็บรักษาพลังงานชัวิตไปใช้ในการเนรมิตอนาคตให้เป็นตามต้องการ ผู้ที่จัดการพลังงานความคิดและอารมณ์ตนเองได้อย่างสมดุลในแต่ละวัน จะมีจิตใจแจ่มใส สุขภาพสมดุลเมื่อพลังชีวิตดีโรคภัยต่างๆก็ไม่สามารถมาเยือนให้เกิดปัญหาได้



ภาพซ้ายพลังงานไหลออกเป็นก้อนโป่งพองสีชมพูที่ศอจักระ เมื่อทำการฝังเข็มพลังงานเดินได้สะดวกก้อนสีชมพูจึงหายไปในภาพขวา
Cr Biofield viewer


อารมณ์ถูกเก็บไว้ในร่างกายตามตำแหน่งต่างๆ ออโตเจนิค ทรีตเม้นต์และส้อมเสียงช่วยปลดปล่อยพลังงานตกค้างเหล่านั้นได้


พลังงานในด้านซ้ายแสดงพลังงานสีเขียวสีฟ้าที่สมดุล สีชมพูคือพลังงานไม่ลื่นไหลต่อไปจะเป็นโรคและความเจ็บป่วยต่างๆ
Cr Biofield viewer


มะเร็งมีเซลล์มะเร็ง ผลิตจากสเต็มเซลล์มะเร็ง (สีเขียวอ่อน) การรักษามะเร็งทั่วไปใช้รังสีหรือคีโมทำลายเซลล์มะเร็ง แต่ไม่เข้าถึงสเต็มเซลล์มะเร็ง (ภาพชุดบนสุด) ภ้าพลังงานในร่างกายเราไม่ดี มีความเครียดหลั่งคอร์ติซอลอักเสบเรื้อรัง มีน้ำตาลในเลือดมากเกิน สุดท้ายสเต็มเซลล์มะเร็งก็แบ่งตัวให้เซลล์มะเร็งได้อีกในวันข้างหน้า

#มะเร็ง #สาเหตุการเกิดมะเร็ง #สาเหตุทางอารมณ์ที่ทำให้เกิดมะเร็ง

No comments:

Post a Comment